Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ลดความอ้วน 35 วิธี

35 วิธี..เพื่อการลดความอ้วน (ไทยโพสต์)
          เรารู้ว่าเพื่อการลดน้ำหนัก เราต้องรับประทานอาหารให้น้อยลง และออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่หลายคนก็ยังรู้สึกว่าทำไม่ได้ หรือทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีผลการศึกษาวิจัยเรื่องการลดน้ำหนัก และลดความอ้วนที่เขารวบรวมกันมาบอกถึง 35 วิธี ลองอ่านดูซิ เผื่อคุณจะเจอวิธีที่ "ถูกจริต" จะได้ผอมดั่งใจเสียที

          1.โรยผงอบเชยลงในโยเกิร์ตทุกวัน จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ เพราะเครื่องเทศมีส่วนในการช่วยเผาผลาญ ใส่ทุกวัน วันละครึ่งช้อนชา เพียงแค่นี้ก็จะช่วยลดน้ำหนักลงได้หลายกิโลกรัมต่อเดือน

          2.ลองแบ่งอาหารออกจากโต๊ะทำงานของคุณ จะช่วยให้คุณรับประทานอาหารในหนึ่งวันเพียง 250 แคลอรี ซึ่งน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารในระหว่างทำงาน

          3.หัวเราะอย่างสม่ำเสมอ เพียงคุณหัวเราะวันละ 10-15 นาทีต่อวัน จะช่วยเพิ่มพลังงานในการรับประทานอาหารเป็น 280 แคลอรี

          4.ดื่มน้ำแครอท 1 แก้วต่อวัน จะช่วยลดน้ำหนักลงได้ 4 ปอนด์ และหากเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่มน้ำผลไม้ จะใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์ในการลดน้ำหนัก เพราะในน้ำผลไม้มีกากใยอาหารและสารอาหารที่ช่วยเผาผลาญ

          5.ฟังเพลงที่มีจังหวะในระหว่างที่ทำงาน จะช่วยป้องกันความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นในร่างกายได้

          6.การรับประทานเนื้อแดงจะช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในนั้นประกอบไปด้วยโปรตีน ที่จะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อของคุณ กล้ามเนื้อจะเผาผลาญทุก ๆ สี่เวลา เพื่อให้ไขมันลดลงเป็นกล้ามเนื้อ

          7.อย่าออกกำลังกายคนเดียว ควรแนะนำให้เพื่อนมาออกกำลังกายด้วย เพราะมันจะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ถึง 3 เท่า ถ้าคุณออกกำลังกายคนเดียว คุณก็จะไม่มีแรงจูงใจในการออกกำลังกาย แต่ถ้าหากมีเพื่อนมาออกกำลังกายด้วย คุณจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของการเป็นกำลังใจให้กันและกัน

พริก

          8.กินพริกแดง ในนั้นประกอบด้วยสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารทางเคมีซึ่งช่วยให้ผู้ที่ได้ลิ้มรสเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นถึง 25%

          9.ความเครียดจากการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะก่อให้เกิดการรับประทานที่เกินขนาด การกำหนดลมหายใจ 2 นาที โดยการเพ่งสมาธิไปยังจุดใดจุดหนึ่ง จะช่วยบรรเทาความหิวลงได้

          10.การออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำในตอนเช้า เพราะมันจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เร็วขึ้น และช่วยเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ได้ดีกว่าการออกกำลังกายในเวลาอื่น เพราะหากออกกำลังกายในเวลาอื่น ร่างกายจะถูกบังคับให้ทำงานช้าลงและเผาผลาญได้น้อยลง

          11.รับประทานอาหาร 3 มื้อ มื้อละ 250 แคลลอรี ซึ่งเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น อกไก่หั่นบาง ๆ หรือปลาทูน่าในน้ำสปริงที่มีไขมันต่ำเพียง 185 กรัม รวมทั้งขนมปังกรอบ ทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำให้ผู้ที่รับประทานประมาณ 30% ลดน้ำหนักลงได้

          12.ปิดโทรทัศน์ในขณะที่คุณกำลังรับประทานอาหาร เพราะมันจะหยุดความฟุ้งซ่านของคุณได้ และช่วยให้คุณหยุดรับประทานอาหาร วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้ 3.5 กิโลกรัม (เกือบ 8 ปอนด์)

          13.เหยาะซอสถั่วเหลืองลงในอาหาร จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า โปรตีนในถั่วเหลืองทำปฏิกิริยากับสมอง และบอกเราว่าคุณจะรู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา

          14.หั่นอาหารให้บางลง จะช่วยให้คุณรับประทานอาหารได้น้อยลง 20%

วิ่ง

          15.ออกกำลังกายโดยวิ่งบนเครื่องวิ่ง ถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในห้องออกกำลังกาย เพราะมันจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ในระยะเวลาอันสั้น

          16.ดื่มไวน์แดง 1 แก้วทุก ๆ วัน จะช่วยหยุดความอ้วนที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าท้องของคุณ เพราะในน้ำองุ่นจะมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมันบริเวณเอวของคุณ
   
          17.ฟังเพลงคลาสสิกระหว่างทานอาหาร การฟังเพลงจะช่วยผ่อนคลายระหว่างที่รับประทานอาหาร และมันจะช่วยให้คุณรับประทานอาหารน้อยลง และทำให้เคี้ยวอาหารโดยไม่เร่งรีบ ทำให้การเคี้ยวนั้นเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอกับการทำงานภายในร่างกายของคุณ เมื่อคุณหยุดรับประทานอาหาร คุณจะรู้สึกว่าอิ่มเพียงพอ

          18.เคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล หลังการรับประทานอาหาร 15 นาที หลักจากนั้น 2 ชั่วโมงเคี้ยวอีก 1 ครั้ง เพื่อระงับความต้องการอาหารว่าง
    
          19.มีเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพราะมันจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 150 แคลอรี ในทุก ๆ 20 นาที เป็นการเพิ่มฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญ และเพิ่มกล้ามเนื้อให้เจริญเติบโตและกระชับมากขึ้น
    
          20.รับประทานทับทิม เพราะภายในเมล็ดทับทิมจะช่วยทำให้ร่างกายกักเก็บไขมันไว้ได้ และในความหวานของเมล็ดทับทิมจะมีฤทธิ์ยับยั้งความต้องการขนมหวาน และความหวานจากอาหารว่างได้
    
          21.ใช้ไฟปิ้งบาร์บีคิว เป็นการป้องกันไขมันที่จะเกิดขึ้นในขณะปิ้งให้น้อยลง
    
ชาเขียว

          22.จิบชาเขียว ภายในชาเขียวเต็มไปด้วยสารประกอบที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับกาเฟอีน เป็นการเพิ่มสารออกซิเดชั่น และช่วยทำให้ผู้ที่ดื่มชาเขียว 20% นอนหลับง่าย และยังเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น

          23.กินพริกคอน คาร์เน่ สัปดาห์ละครั้ง จะช่วยเพิ่มเอนไซม์ให้กับไต และสมองจะสั่งให้ร่างกายสลายไขมันจากคาร์โบไฮเดรต ในขณะที่ระบบเผาผลาญกำลังทำงาน
    
          24.ให้ผักโขมเป็นตัวเลือกแรกสำหรับผักใบเขียว เพราะในผักโขมรวมเอาไว้ซึ่งกากใยอาหารที่ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
    
          25.เปลี่ยนมาใช้เนยแข็งแบบธรรมดาที่ทำจากนมแพะ เพราะในเนยแข็งที่ทำจากนมแพะจะมีไขมันที่ต่ำกว่าเนยแข็งที่ทำจากนมวัวประมาณ 40%

          26.เพิ่มถั่วในอาหารทุกมื้อ จะลดน้ำหนักได้ถึง 74 กิโลกรัม (มากกว่า 15 ปอนด์) ภายในระยะเวลา 10 สัปดาห์ เพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้น

          27.รับประทานอาหารที่ดี เพื่อช่วยเผาผลาญไขมัน เช่น ไข่ ผลวอลนัท เมล็ดสมุนไพรยุโรป สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารที่ดี และช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้

          28.ดื่มน้ำผลไม้พร้อมด้วยเกล็ดผลไม้ เพราะมันจะช่วยเพิ่มกากใยอาหาร และช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน

อาหารเช้า

          29.รับประทานอาหารเช้า ผู้ที่มีระบบการเผาผลาญที่ไม่ดีควรรับประทานอาหารมื้อเช้า โดยรับประทานให้ได้มากกว่า 100 แคลอรีต่อวัน

          30.รับประทานผลแอปเปิ้ลก่อนมื้ออาหาร จะช่วยทำให้คุณบริโภคอาหารเฉลี่ยเพียง 187 แคลอรี ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าการรับประทานอาหารปกติ โดยไม่รับประทานผลแอปเปิ้ล

          31.เหยาะน้ำมันมะกอกลงในสลัด มันมีกรดไขมันที่ดี และเป็นตัวกระตุ้นโปรตีนให้บอกกับร่างกายของคุณว่าอิ่มแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีในการป้องกันการรับประทานที่มากจนเกินไป

          32.ใส่มะเขือเทศลงในแซนด์วิช มันจะเก็บกักความรู้สึกอิ่มตัวไว้ และทำให้คุณรับประทานน้อยลง เนื่องจากในผลไม้มีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมน ghrelin ซึ่งเป็นสารที่ดูแลและบรรเทาอาการอยากอาหาร

          33.เว้นระยะเวลา 3 ชั่วโมง หลังการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ เพื่อช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของคุณทำงานได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

          34.รับประทานสับปะรด เพราะไม่เพียงแค่เป็นของว่างที่ดี แต่เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายนั้นทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยสลายโปรตีนได้ดีอีกทางหนึ่ง

          35.รับประทานขนมปังที่มีส่วนผสมของเมล็ดธัญพืช เพราะในนั้นจะมีกากใยอาหารที่สูง จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นาน


ที่มา : kapook
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:s4vSq6VhDmQJ:health.kapook.com/view45426.html+&cd=4&hl=th&ct=clnk&gl=th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น