Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การเล่นฟิตเน็ต ให้มีก้ามเนื้อ

15 กลเม็ดเพื่อมัดกล้ามสุดเพอร์เฟ็กต์

15 กลเม็ดเพื่อมัดกล้ามสุดเพอร์เฟ็กต์

15 กลเม็ดเพื่อมัดกล้ามสุดเพอร์เฟ็กต์ (Men’s Health) 
เรื่อง Men’s Health US แปลเรียบเรียง กีรติ ไตรรัตน์วัฒนกุล

          ยกระดับการเวิร์กเอาต์และเปลี่ยนรูปร่างของคุณ ด้วยเคล็ดลับใหม่ ถอดด้ามจากเทรนเนอร์ชั้นนำที่ MH รวบรวมมาจากทั่วทุกสารทิศ

          ท่วงท่าและวิธีฝึกแบบเก่าอาจให้ผลลัพธ์แบบเดิม ๆ แต่หากคุณต้องการได้มาซึ่งรูปร่างที่ดีกว่าที่เคย คุณต้องอาศัยอะไรที่มากกว่ารูปแบบการฝึกที่พาคุณมาถึงจุด ณ ปัจจุบัน ถือเป็นโชคสำหรับตัวคุณ (รวมไปถึงมัดกล้ามทุกเส้นใยในตัวคุณ) ที่เทรนเนอร์และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาจากทั่วทุกหัวระแหงได้สละเวลาอันมีค่ามานั่งตอบคำถามอันแสนจะไร้รูปธรรม แต่สามารถเป็นกุญแจสู่ทุกคำตอบอย่าง “ทำไมเราถึงต้องฝึกท่านี้แบบนั้น” และจะเป็นอย่างไรหาก “เราฝึกมันในอีกรูปแบบหนึ่ง”

          คำตอบต่อข้อสงสัยนี้ช่างน่าประหลาดใจมากพอ ๆ กับอรรถประโยชน์ที่คุณจะได้รับ อย่ามัวรีรออยู่เลยครับ เพราะตัวเลือกท่าฝึกและเทคนิคขั้นเทพโดยเทรนเนอร์หัวกะทิจากทั่วประเทศนั้นอยู่ใกล้ ๆ คุณเพียงแค่ช่วงพลิกหน้ากระดาษ และไม่เพียงคุณจะได้รีเฟรชระบบให้กับโปรแกรมการเวิร์กเอาต์เท่านั้น แต่คุณยังจะต้องประทับใจไปกับมัดกล้ามที่พอกพูนอย่างที่คุณไม่เคยประสบพบพานมาก่อน

1. ลองสูตรใหม่ในการสร้างกล้าม

          ไบรอัน เซนต์ปิแอร์ ผู้ก่อตั้ง BSP Training & Nutrition แนะนำเคล็ดลับว่า ให้คุณเพิ่มการฝึกด้วยท่าฝึกประเภทออกแรงดึงน้ำหนักเข้าหาตัว เช่น ท่า Row, Pullup และ Pulldown อย่างน้อย 3 เซ็ต ในทุก ๆ 2 เซ็ตของการฝึกกล้ามเนื้อหน้าอก และท่าหลักในการฝึกไหล่อย่างท่า Shoulder Press ทั้งนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณได้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามหรือไม่เคยใช้เทคนิคประเภทนี้เลย ดังนั้น นี่จึงเป็นหนทางที่ดี ในการสร้างมัดกล้ามในจุดที่คุณละเลยมาตลอด แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ ทั้งปรับรูปร่างท่วงท่า สมดุลกล้ามเนื้อ โดยรวมที่ดีขึ้น และกล้ามเนื้อที่เติบโตเร็วกว่าที่เคย

2. ปั่นกล้ามหัวไหล่ให้กลมกลึง

          กล้ามเนื้อหัวไหล่ที่แข็งแรงมั่นคงคือฐานที่ช่วยให้คุณยกได้หนักขึ้นในเกือบจะทุกท่าฝึกกล้ามเนื้อช่วงบน ซอน กรอสส์ เทรนเนอร์และผู้ก่อตั้ง Comprehensive Physical Therapy and Fitness ในเพนซิลเวเนีย แนะนำว่า ให้คุณเริ่มโปรแกรมการฝึกกล้ามเนื้อช่วงบนทั้งหลายด้วยท่า Band Pull-apart ท่าฝึกนี้ช่วยฝึกกล้ามเนื้อจุดหมุนหัวไหล่ และกล้ามเนื้อยึดสะบักหลังซึ่งถือเป็นสองจุดสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของข้อต่อหัวไหล่ (และนับเป็นหนึ่งในท่าฝึกประเภทดึงอีกด้วย)

          วิธีการฝึก คือ เหยียดแขนทั้งสองข้างไว้ด้านหน้า ใช้มือทั้งสองถือแผ่นยางไว้ด้านหน้าที่ความสูงระดับอก หงายฝ่ามือขึ้น จากนั้นออกแรงเกร็งดันปลายไหล่ด้านหลังให้เคลื่อนเข้าหากันเกร็งแขนให้นิ่งก่อนเหยียดแผ่นยางออกไปข้างลำตัวจนแผ่นยางยืดออกไปแตะที่บริเวณราวนม เสร็จแล้วให้ย้อนท่ากลับก่อนฝึกซ้ำ ฝึกจนครบ 2-3 เซ็ต เช็ตละ 10-15 ครั้ง หยุดพักระหว่างเช็ต 60 วินาที

3. เพิ่มกล้ามเนื้อหลังให้หนาปี้ก

          เส้นใยกล้ามเนื้อส่วนใหญ่บริเวณหลังส่วนบนของคนเรานั้นมีลักษณะการวางตัวในแนวนอน ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทำไมท่าจำพวก Row (ดึงแรงด้านเข้าหาตัว) ถึงใช้ได้ผลดีในการสร้างกล้ามเนื้อหลัง อย่างไรก็ตามยังมีกล้ามเนื้อบนแผ่นหลังอีกหลายมัดที่วางตัวในลักษณะกึ่งแนวตั้ง ลี บอยซ์ โค้ชด้าน สมรรถภาพจากโทรอนโต ได้แนะนำท่าฝึกเฉียบ ๆ ที่ชื่อว่า J Pull-in ซึ่งมีจุดเด่นในการฝึกกล้ามเนื้อหลังได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ส่วนบนจรดปลาย

          บอยซ์บอกเพิ่มเติมว่า “แถมยังไม่ต้องอาศัยการโหลดน้ำหนักที่มากมายอย่างท่าฝึกหลัง ท่าอื่น ๆ เพื่อให้คุณรู้สึกได้ถึงการทำงานของกล้ามเนื้ออีกด้วย”

          เริ่มจากติดมือจับแบบเชือกเข้ากับเครื่องเคเบิลแล้ว ปรับไปที่ระดับบนสุด ใช้มือทั้งสองข้างจับมือจับที่ปลายเชือกแล้วนั่งคุกเช่าโดยหันหน้าเข้าหาแผ่นน้ำหนัก เหยียดแขนทั้งสองข้างให้สุดและตั้งลำตัวให้ตรงก่อนเริ่มฝึกด้วยการ ดึงเชือกลงเข้าหาช่วงด้านข้างของขาหนีบ (ในท่านี้เชือกควรมีลักษณะเหมือนรูปตัว Jl ฝึกให้ครบ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง หยุดพักระหว่างเซ็ต 60 วินาที

15 กลเม็ดเพื่อมัดกล้ามสุดเพอร์เฟ็กต์
4. ปั้มอกให้พอง

          หากคุณยังไม่ค่อยพอใจนักกับพัฒนาการของกล้ามเนื้อหน้าอก สาเหตุสำคัญอาจมาจากหนึ่งในปัญหาสองข้อต่อไปนี้

          - คุณยังฝึกไม่หนักพอ บางครั้งการแก้ปัญหาก็ง่ายและตรงไปตรงมาอย่างนี้แหละ บอยซ์แนะนำเทคนิค 1 1/2 Rep Bench Press ซึ่งสามารถเพิ่มความหนักหน่วงให้กับการฝึกกล้ามเนื้อหน้าอกได้มากถึงสองเท่า ที่ม้านอนฝึก Bench Press ให้คุณฝึกโดยลดบาร์ลงเข้าหาช่วงอกแล้วดันกลับขึ้นเพียงครึ่งทาง จากนั้นลดบาร์ลงอีกครั้งแล้วดันกลับขึ้นจนแขนเหยียดตรง ฝึกโดยใช้น้ำหนักประมาณ 70-80 % ของ 1-Rep Max (น้ำหนักที่คุณสามารถยกได้เพียงหนึ่งครั้ง แล้วหมดแรง) ทั้งหมด 3-4 เซ็ต เซ็ตละ 8 ครั้ง

          - ไหล่ของคุณถูกใช้งานจนใกล้จะพัง โทนี เจนทิลคอร์ ผู้ก่อตั้งร่วมแห่ง Cressey Performance ในแมสซาซูเซตส์ บอกว่า การฝึกท่า Bench Press และ Dip มานานแรมปี จะส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว ทางออกในการสร้างแผงอก และไทรเซ็ปส์ให้บึกบึนโดยไม่สร้างภาระให้กับไหล่มากนัก คือการฝึกด้วยท่า Close-Grip Board Press เริ่มจากจัดเตรียมอุปกรณ์ เช่น กล่องหรือโฟมหนา ๆ มาสัก 2 อัน กว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว และสูง 2 นิ้ว เอาเทปกาวพันติดกันไว้ เพื่อใช้เป็นบล็อกสำหรับรองรับบาร์

          จากนั้นสอดเอาไว้ได้เสื้อ โหลดบาร์ให้เรียบร้อยแล้วนอนหงายบนม้านอน จับบาร์แบบคว่ำฝ่ามือโดยเว้นระยะห่างมือที่ความกว้างประมาณ 12-15 นิ้ว เริ่มฝึกด้วยการยกบาร์เหยียดขึ้นแล้วลดบาร์ลงมาที่บล็อก หยุดพักค้างไว้ที่จุดนี้ สักครู่ก่อนดันบาร์กลับขึ้นสู่ท่าเริ่มต้น ในท่าฝึกนี้คุณสามารถโหลดบาร์ให้มากกว่าปกติได้ ฝึกจนครบ 3-4 เซ็ต เซ็ตละ 6-8 ครั้ง

5. สร้างกล้ามเนื้อโคนขาด้านใน

          คุณคงไม่อยากถูกจับนั่งแท่นบนเครื่องฝึกกล้ามเนื้อโคนขาจนเปลี้ย แต่ในขณะเดียวกันเราก็รู้ว่าคุณคงไม่อยากละเลยการฝึกโคนขาด้านในซึ่งถือเป็นบริเวณที่มีพลังแฝงในการเติบโตมากเหลือเกิน กรอสส์แนะนำว่าคุณสามารถฝึกส่วนนี้ได้ในขณะที่ฝึก Pullup โดยใช้เท้าหนีบแผ่นน้ำหนักขนาดเบา ๆ เอาไว้ด้วย การทำแบบนี้จะทำให้คุณได้เพิ่มการออกแรงจากกล้ามเนื้อท้องและโคนขาด้านในไปพร้อม ๆ กับการฝึกกล้ามเนื้อหลัง ไหล่และแขน

6. ไบเซ็ปส์ทรงพลัง

          ถ้าคุณอยากฝึกเส้นใยกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ให้ทั่วถึงคุณต้องฝึกด้วยน้ำหนักที่หนักอึ้งหรือไม่ก็ต้องยกด้วยความเร็วสูงสุด แซด วอเตอร์บิวรี ผู้แต่งหนังสือ Huge in a Hurry บอกว่า น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำหนึ่งในสองข้อนี้เลย ทางที่ดีในครั้งต่อไปที่คุณจะฝึกท่าประเภท Curl ให้คุณใช้น้ำหนักที่คิดว่าจะยกได้เพียงแค่ 6-7 ครั้ง แล้วฝึกด้วยความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้

          โดยยังคงรักษาท่วงท่าการฝึกที่ถูกต้องเอาไว้ ซึ่งนั่นหมายถึงการออกแรงยกอย่างรวดเร็ว ผ่อนแรงกลัวด้วยความเร็วปกติและฝึกครั้งต่อไปอย่างต่อเนื่องทันทีที่ถึงจุดปลายท่า ให้คุณหยุดฝึกในเซ็ตนั้นทันทีเมื่อความเร็วในการยกเริ่มตกลง ในครั้งแรกคุณอาจยกได้ 4-5 ครั้ง (ก่อนที่ความเร็วจะตก) และไม่ต้องตกใจหากจำนวนครั้งจะลดลงอีกในเซ็ตถัดๆ ไป ตั้งเป้าการฝึกไว้ให้ได้รวม 25 ครั้ง หยุดพักระหว่างเซ็ต 45 วินาที

15 กลเม็ดเพื่อมัดกล้ามสุดเพอร์เฟ็กต์
7. ทริคในการสร้างไทรเซ็ปส์

          วอเตอร์บิวรีแนะนำท่า Jackknife Pushup ในการสร้างมัดกล้ามไบเซ็ปส์ โดยให้คุณฝึกควบคู่ไปกับเทคนิคการออกแรงด้วยความเร็วสูงในกลเม็ดที่ 6 ไปด้วย เริ่มจากตั้งท่าวิดพื้นแต่ให้วางปลายเท้าบนม้านอนและวางมือบนพื้น เว้นระยะห่างมือตั้งแต่ 6-12 นิ้ว ยกสโพกค้างไว้ (อย่าตกใจหากคุณรู้สึกถึงอาการเลือดตกลงศีรษะ นั่นถือว่าคุณตั้งท่าถูกต้องแล้ว) เริ่มฝึกท่าวิดพื้นด้วยความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ตลอดการฝึกลำตัวจะต้องนิ่งและแขนต้องไม่อ่อนแรงจนศีรษะคุณแตะพื้น ตั้งเป้าจำนวนครั้งไว้ที่ 35 ครั้ง แต่ให้ฝึกเพียงเซ็ตละไม่เกิน 7 ครั้ง

8. ปั้นขาให้แข็งแกร่ง

          ชาร์จพลังให้กับท่าฝึกประเภท Lunge ทั้งหลายด้วยเทคนิคการเพิ่มช่วงของการเคลื่อนไหวให้มากขึ้นเพื่อเร่งการทำงานของกล้ามเนื้อให้เติบโตอย่างรวดเร็ว บอยซ์แนะนำให้ใช้ทริคเหล่านี้ในการปั้นกล้ามขาอย่างมีประสิทธิภาพ

          - Reverse Lunge from Step ยืนบนกล่องหรือแท่นสเต็ปที่มีความสูงประมาณ 6 นิ้ว เริ่มฝึกด้วยการก้าวเท้าขวาถอยหลังลงกว้างๆ แล้วย่อตัวลงจนเช่าเกือบแตะพื้น เสร็จแล้วดันตัวกลับขึ้นยืนบนกล่องตามเดิมก่อนฝึกซ้ำโดยเปลี่ยนสลับข้าง

          - Bulgarian Split Squat with Front Foot Elevatedางเท้าซ้ายบนแท่นสเต็ปที่มีความสูงประมาณ 6 นิ้วที่วางอยู่ด้านหน้า ส่วนเท้าขวาวางบนม้านอนที่อยู่ด้านหลัง เริ่มฝึกด้วยการย่อตัวลงตรง ๆ จนเข่าขวาเลื่อนลงมาเกือบแตะพื้น ฝึกให้ครบตามจำนวนครั้งก่อนเปลี่ยนสลับข้างแล้วฝึกซ้ำฝึกให้ได้ 3 เซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้งต่อข้าง ด้วยการใช้เพียงน้ำหนักตัว หรือฝึกโดยถือดัมบ์เบลไว้ข้างละอันสัก 1 จาก 3 เซ็ต ดังกล่าว

9. เร่งการทำงานให้กล้ามเนื้อบั้นท้าย  

          Deadlift และ Squat เป็นท่าฝึกที่ดีมากสำหรับกล้ามเนื้อปั้นท้าย แต่นั่นก็ต่อเมื่อคุณได้ใช้ออกแรงขณะฝึกอย่างจริง ๆ จัง ไบรอัน ซาร์บาทานีย์ ผู้อำนวยการด้านการฝึกจาก Human Parformance Center ในเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า หากช่วงเข่าของคุณงุ้มเข้าหากันขณะฝึก นั่นหมายความว่าคุณได้ออกแรงจากกล้ามเนื้อหลังเป็นหลัก แทนที่จะเป็นกล้ามเนื้อบั้นท้าย ทางออกสำหรับปัญหานี้คือ ในขณะฝึกให้คุณใช้เท้ากดพื้นให้มั่นที่สุดเสมือนว่าคุณกำลังพยายามบิดปลายเท้าด้านนอกให้จมลงกับพื้น ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ช่วงเช่าของคุณเปิดออกและได้ออกแรงจากกล้ามเนื้อปั้นท้าย

10. เข้าถึงแก่นของกล้ามเนื้อแทนกลาง

          ท่า Abdominal Push Press เป็นท่าฝึกช่วงท้องที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้บนเตียงนอน โจนาธาน แฟส นักกายภาพบำบัดและผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนส แนะนำการฝึกท่านี้ว่า ให้คุณนอนหงายบนพื้น ชันเข่าขึ้นและวางฝ่าเท้า ราบไปกับพื้น เริ่มฝึกด้วยการยกเข่าขวาขึ้นให้สะโพกตั้งทำมุม 90 องศา จากนั้นใช้มือซ้ายกดลงบนต้นขาขวาใกล้ ๆ บริเวณเข่า คราวนี้ให้คุณลองยกต้นขาขวาเข้าหาช่วงอก ขณะที่ออกแรงดันด้านเอาไว้ด้วยมือซ้าย

          หากคุณสามารถฝึกท่านี้ได้อย่างถูกต้อง กล้ามเนื้อแกนกลางของคุณจะได้ออกแรงในตอนช่วงที่ยันกันอยู่ของท่า หยุดค้างไว้ที่ช่วงบนสุดของท่านาน 3-5 วินาที จากนั้นเปลี่ยนสลับข้างแล้วฝึกซ้ำจนกว่าคุณจะหมดแรง

15 กลเม็ดเพื่อมัดกล้ามสุดเพอร์เฟ็กต์
11. มิกซ์การฝึกเพื่อแทนกลางที่ทรงพลัง

          แฟสแนะนำ Ab Prayers ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางที่จำต้องอาศัยคู่ฝึท่านี้ช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีเป็นทวีคูณ เริ่มจากยืนหันหน้าเข้าหากัน ให้คุณยืนเว้นระยะห่างปลายเท้าให้เท่าความกว้างช่วงไหล่ งอเข่าเล็กน้อย พนมมือขึ้นที่ระดับอกให้ช่วงศอกกางออกจากลำตัวประมาณ 6-10 นิ้ว จากนั้นให้เพื่อนคุณออกแรงทั้งดันและตึงมือของคุณไปทั่วทุกทิศทุกทาง ส่วนคุณก็พยายามออกแรงเกร็งด้านเอาไว้โดยลำตัวคุณ ต้องอยู่นิ่งและขยับเขยื้อนน้อยที่สุด ฝึกนาน 30 วินาทีก่อน เปลี่ยนบทบาทหน้าที่กัน

          หลังจากฝึกเสร็จแล้วคุณทั้งสองควรรู้สึกถึงกล้ามเนื้อช่วงกลางลำตัวทั้งหมดที่ได้ออกแรงทำงาน หากคุณหาคนช่วยฝึกไม่ได้ ลองท่า Stir the Pot ท่าฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางที่แสนจะคลาสสิกจากผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระอย่าง ดร.สจวร์ต แมคกิล เริ่มจากตั้งท่า Plank (คล้ายท่าวิดพื้นแต่ทิ้งน้ำหนักลงบนหน้าแขนแทน) วางช่วงหน้าแขนลงบนลูกสวิสบอล เริ่มฝึกด้วยการลิ้งบอลเป็นรูปวงกลมด้วยการเคลื่อนหน้าแขนวนเป็นวงกลม

12. ปั้นกล้ามน่องให้ใหญ่กว่าเคย

          แทนที่จะฝึกกล้ามเนื้อน่องแบบแยกส่วนนิด ทันมิเนลโล เทรนเนอร์จากเมืองบัลติมอร์ อยากให้คุณลองท่า Bench Bridge ซึ่งช่วยฝึกกล้ามเนื้อน่องไปพร้อม ๆ กับต้นขาด้านหลังและปั้นท้าย เริ่มจากนอนหงาย วางส่วนหนาด้านในของฝ่าเท้าบนผ้านอนและปล่อยให้เช่าทั้งสองข้างงอเล็กน้อย เริ่มฝึกด้วยการสะโพกขึ้นซึ่งคุณควรจะรู้สึกได้ถึงการออกแรงจากช่วงน่องไปจนถึงช่วงปั้นท้าย เสร็จแล้วลดสะโพกลงแล้วฝึกซ้ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

13. Squat ให้หนักขึ้น แต่โอกาสบาดเจ็บน้อยลง

          ใคร ๆ ก็อยากฝึกท่าพวก Powerlitrs (ท่าที่ต้องอาศัยการออกแรงจากกล้ามเนื้อทั่วร่างในบทบาทที่ต่าง ๆ กันไป) ได้ด้วยน้ำหนักที่หนักขึ้น แน่นอนว่าคงจะไม่มีอะไรมาทดแทนการมุ่งมั่น ฝึกฝนจนกล้ามเนื้อแกร่งขึ้นได้ อย่างไรก็ตามคุณสามารถสร้างความแตกต่างได้ ด้วยเทคนิคที่สุดแสนจะธรรมดาสามัญ

          เจนทิลคอร์อธิบายเทคนิคนี้ว่า “สำหรับการฝึก Barbell Squat ให้คุณลองออกแรงดึงบาร์ที่พาดอยู่บนไหล่ลงขณะฝึก ให้เหมือนกับว่าคุณยายามจะหักบาร์ให้ขาดครึ่งท่อ การทำแบบนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อปีกของคุณต้องออกแรงมากขึ้น ซึ่งนั่นจะเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้กับกล้ามเนื้อแนวสันหลัง” ผลลัพธ์ คือคุณจะยกได้หนักขึ้นไปพร้อม ๆ กับความปลอดภัยในการฝึกที่มากขึ้นตาม และถ้าคุณเผลอทำบาร์ขาดจริง ๆ ก็รบกวนช่วยอัดวิดีโอส่งมาให้เราดูหน่อยนะครับ

14. เพิ่มพลัง Bench Press

          อาจจะฟังดูประหลาดอยู่ไม่น้อย แต่จุดเริ่มต้นที่ดีของการ Bench Press ด้วยพละกำลังอันมหาศาลนั้น ผู้เชี่ยวชาญของเราอยากให้คุณเริ่มต้นที่บั้นท้าย ใจ สแตนโกว์สกี เทรนเนอร์จาก Grand Rapids ในมิซิแกน บอกว่า “เค้นก้นลงกับเบาะให้แน่น ออกแรงหดเกร็งกล้ามเนื้อบั้นท้ายของคุณไปตลอดช่วงการฝึก” คุณจะพบว่าเทคนิคเหนือจินตนาการนี้ จะช่วยสร้างฐานของคุณให้มั่นคงและช่วยส่งแรงในการยกได้มากกว่า เสร็จแล้วก็อย่าลืมคลายกันออกจากเบาะล่ะครับ

15. Deadlift อย่างมืออาชีพ

          อย่างแรกคือคำแนะนำในเรื่องอุปกรณ์ ซักถุงเท้าให้สะอาดปราศจากกลิ่นอับ เอาล่ะทีนี้เมื่อคุณฝ่ารถติดไปถึงห้องยิมแล้วให้ฝึก Deadlift โดยถอดรองเท้าออก (หากยิมของคุณยอมให้ถอดรองเท้าขณะใช้อุปกรณ์) เอริค เครสซีย์ โค้ชด้านสมรรถภาพและพละกำลัง แนะนำว่า “การใส่รองเท้าฝึกเท่ากับเป็นการเพิ่มระยะทางที่บาร์จะต้องเดินทาง”

          นอกจากนี้แล้วยังทำให้ช่วงส้นเท้าของคุณลอยสูงจากพื้น ซึ่งนั่นทำให้ต้นขาด้านหน้าต้องแบกรับน้ำหนักส่วนใหญ่ แทนที่จะเป็นการเฉลี่ยไปให้กับต้นขาด้านหลังและบั้นท้ายอย่างที่ควรจะเป็น คุณสามารถฝึกด้วยเท้าเปล่าหรือสวมถุงเท้าไว้ก็ได้แล้วแต่ถนัด

ที่มา : http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:u14IayuDtCkJ:men.kapook.com/view39208.html+&cd=4&hl=th&ct=clnk&gl=th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น